ไม่ปล่อยให้ผิดหวังนาน สำหรับใครที่พลาดไป 10 กันยายน 2564 นี้ กับสนีกเกอร์ที่ทาง Adidas เคลมว่าเป็นรองเท้าบาสเก็ตบอลที่มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ล้ำและเรียบหรู เป็นผลงาน Yeezy ยอดฮิต Adidas และ Kanye West ในรุ่น YZY QNTM ONYX กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างจากรองเท้าบาสรุ่นอื่นๆ และสี All Black แบบ Tone on Tone ที่มาให้เลือกกันแบบครบทั้งครอบครัว มีทุกไซส์ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใหญ่ เด็ก เด็กเล็ก
ปล่อยภาพมาให้เห็นกันจะๆ อย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ AIR VAPORMAX EVO ที่มาในสีดำ ถูกใจสาย All Black และดีไซน์ที่หยิบโมเดลคลาสสิกของ Nike VAPORMAX มาปรับโฉมใหม่ โดยใช้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ของ Air Max 96 II ผสมกับเอกลักษณ์ของ Midsole จาก Vapormax ทำให้เดิมที่เคยเป็นรองเท้าวิ่งในช่วง 1996 สำหรับ Air Vapormax EVO รุ่นล่าสุดนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงด้วยการปรับลุคให้ทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบันมากขึ้น กลายเป็นที่มาของ Air Vapormax EVO
Air Vapormax EVO มาในสี Triple Black เริ่มกันที่ส่วนของ Upper ประกอบด้วยวัสดุผ้าตาข่าย (Mesh) และส่วนที่เป็นหนัง ประกอบลิ้นรองเท้าที่เป็นวัสดุ Neoprene ที่มีโลโก้ยาง Vapormax แปะอยู่ และเอกลักษณ์สำคัญที่เป็นกิมมิคสร้างความโดดเด่นคือ วัสดุสะท้อนแสง 3M ที่ถูกประดับอยู่ตรงด้านข้างของปลายเท้า ส่วนของที่ร้อยเชือกร้องเท้า และแถบสัญลักษณ์ EVO ตรงหลังข้อเท้า คอยสะท้อนแสงในยามค่ำคืน นอกจากจะความสวยงามแล้ว ยังเพิ่มเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย
ทุกเทศกาลแบรนด์แฟชันและเครื่องแต่งกายไม่ว่าจะแบรนด์หรูตลอดจนสายสตรีท ก็มักจะออกคอลเลกชันพิเศษมาแข่งขันกัน ซึ่งนอกจากตามซีซันปกติทั่วไปอย่าง Winter Fall Summer Spring แล้ว ก็ยังมีโอกาสหรือเทศกาลพิเศษที่แบรนด์ต่างๆ ก็ออกคอลเลกชันมาเพื่อให้ทันกระแสสังคมกันอยู่เรื่อยไป
รวมถึงเทศกาลอย่าง Pride หรือ Pride Month ที่ถูกกำหนดขึ้นให้เดือน มิถุนายน ของทุกปี เป็นเดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ LGBTQIA+ เพื่อความเท่าเทียมกันของคนทุกคน ซึ่งคอลเลคชันที่ออกมาช่วงเดือนนี้บางแบรนด์ก็ออกแบบสินค้าเพื่อให้ตรงกับกระแสปัจจุบัน และเพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนความเสมอภาคของคนทุกเพศ โดยการนำสีรุ้ง ที่เป็นสีของธงอันเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBTQIA+
Nike เองก็เป็นหนึ่งในแบรนด์เหล่านั้น ที่เมื่อถึงเดือนมิถุนายน ก็จะมีคอลเลกชัน BETRUE ออกมา และเพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์สื่อถึง Pride Month ก็มีการใส่สีรุ้งเข้าไปในสินค้าคอลเลกชันนี้ด้วย โดยในปี 2020 นี้เอง ทาง Nike ก็ได้หยิบสินค้ายอดฮิตอย่าง AIR FORCE 1, AIR DESCHUTZ, และ AIR MAX 2090 มาเล่นในคอลเลกชัน BETURE ในเดือน Pride Month
สำหรับคอลเลกชัน Nike Betrue 2020 ได้เปิดตัวไปแล้วในบางประเทศ และมีกำหนดจะวางขายในประเทศไทยในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 นี้ เวลา 9 โมง โดยราคา Air Force 1 ‘BETRUE’ อยู่ที่ 5,500 บาท, Air Max 2090 ‘BETRUE’ อยู่ที่ 5,500 บาท และ AIR DESCHUTZ ‘BETRUE’ อยู่ที่ 2,900 บาท
สำหรับคู่แรกคือตำนานตลอดกาลอย่าง AIR JORDAN 1 LOW สีเขียว PINE GREEN เป็นรุ่นที่ถูกเปิดตัวในปี 1985 ในส่วนของวัสดุอัปเปอร์สีเขียวที่เป็นผ้าซาติน ตัดกับสีขาว และ Swoosh สีดำ มีกำหนดวางจำหน่ายทาง NIKE ในวันที่ 24 ม.ค. 2020 ที่ผ่านมา เวลา 9:00 น. สนนราคา 3,600 บาท
2. ACG AIR TERRA ANTARKTIK GORE-TEX – JUNIPER FOG/JADE STONE
สำหรับรุ่น ACG AIR TERRA ANTARKTIK GORE-TEX คู่นี้ UPPER ทำจากผ้า Gore-Tex ทำให้สามารถกันน้ำได้ และในส่วนของ Midsole ที่ออกแบบมาเพื่อสายลุยโดยเฉพาะ เพราะพื้นรองเท้าทำจากยางที่เหนียวเป็นพิเศษและดอกของพื้นรองเท้าที่ค่อนข้างละเอียดช่วยในการยึดเกาะ รวมถึงในตัวรองเท้าก็มีระบบ Zoom Air ของ Nike สำหรับลดแรงกระแทกอีกด้วย
ที่มาของชื่อ JUNIPER FOG/JADE STONE มาจากคู่สีที่ตัดกันตรงส่วนของหุ้มข้อและด้านในรองเท้า รวมถึงโลโก้ใต้พื้นรองเท้า ที่ใช้สีส้มสะท้อนแสง ที่สามารถสะท้อนแสงได้ในตอนกลางคืน จะเรียกได้ว่าใส่เอาเท่สไตล์สตรีทแฟชั่นหรือจะใส่ลุยเดินป่าปีนเขา ก็เหมาะเหม็งแบบ All in one วางจำหน่ายในไทยแล้วเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ราคา 6,700 บาท บนเว็บไซต์ของ Nike Thailand
3. AIR JORDAN IV – BLACK CAT
Air Jordan IV Black Cat มาในสี All Black สุดเท่ ซึ่งคำว่า Black Cat นั้นมาจาก Michael Jordan the Black Cat ซึ่งเป็นฉายาหนึ่งของไมเคิล จอร์แดน เนื่องจาก Black Cat คู่นี้ ใช้วัสดุสีดำเหมือนกันแต่วัสดุต่างกันในส่วนต่างๆ ทำให้เกิดลูกเล่นสลับเฉดสีดำไปมาอย่างมีสไตล์ ส่วนของอัปเปอร์ที่เป็นหนังนูบัคและส่วนของรูร้อยเชือกที่เป็นวัสดุแข็ง มีตาข่ายระบายอากาศด้านบน เก็บงานด้วยโลโก้ Jumpman ในส่วนของลิ้นรองเท้า พื้นรองเท้าด้านใน และส้นรองเท้า เปิดตัวไปเมื่อ 25 ม.ค. บนเว็บไซต์ Nike ซึ่ง ณ เวลานี้ (25 ม.ค. 14:56 น.) สินค้าหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สนนราคาอยู่ที่ 6,700 บาท
4. ACG AIR TERRA ANTARKTIK GORE-TEX – MIDNIGHT
ACG AIR TERRA ANTARKTIK GORE-TEX MIDNIGHT วางจำหน่ายพร้อมสี JUNIPER FOG/JADE STONE แต่มาในแบบสีดำล้วน ในวัสดุที่เหมือนกัน ต่างกันเพียงสีที่ใช้ที่มาแบบสีดำ ในวัสดุที่แตกต่าง ทำให้เกิดสีดำหลายเฉดดูไม่จำเจ และสีกรมที่ตัดตรงส่วนที่หุ้มข้อและโลโก้ Swoosh และส่วนของพื้นรองเท้า ในราคา 6,700 บาท ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ก็เหลืออีกเพียงไม่กี่ไซส์แล้ว
5. AIR MAX 90 – VOLT/PARTICLE GREY (WOMEN)
สาวๆ สายเท่ต้องกรีดร้อง เมื่อ AIR MAX 90 เตรียมจำหน่ายในไซส์ผู้หญิง มาในคู่สี VOLT ทรงรองเท้าถูกออกแบบมาให้รับกับทรงของเท้าผู้หญิง ทำให้ใส่สบายมากขึ้น พร้อมเทคโนโลยี AIR ของ NIKE ด้วยสีแสบสันสะดุดตา วางขายแล้ววันนี้ 25 ม.ค. 2563 ในราคา 4,600 บาท บนเว็บไซต์ NIKE
6. AIR FORCE 1 REACT – WHITE/BLACK/TRUE RED
อีกหนึ่งวิวัฒนาการความเท่ของโมเดล Air Force 1 ที่สายสตรีทต้องมีติดไว้สักคู่ รอบนี้ถูกตกแต่งด้วยนวัตกรรมใหม่ของ Nike React ผสมผสานกกันอย่างลงตัวในการลดแรงกระแทก พื้นนุ่ม และสปริงตัวได้ดี
ส่วนตรงปลายสุดรองเท้ามีข้อความที่สกรีนด้วยอักษรตัวพิมพ์ว่า “GYAKUSOU WENT THE DISTANCE” ที่เป็นเหมือนสโลแกนของรองเท้าคู่นี้ อธิบายไปก็ไม่ค่อยจะเห็นภาพ ลองเลื่อนกลับขึ้นไปชมภาพเต็มๆ ได้ที่สไลด์โชว์ด้านบนนี้กันได้เลย
นับว่าเป็นตำนานแห่งสนีกเกอร์ไปแล้วก็ว่าได้สำหรับ Air Jordan 1 Retro High OG เพราะตั้งแต่ปล่อยออกมาคู่แรกตั้งแต่ตอนที่ไมเคิล จอร์แดนยังหนุ่มๆ สมัยยังอยู่ที่ University of North Carolina กระแสความนิยมก็ไม่เคยตกเลยมาจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเปิดขายปุ๊บ หมดปั๊บ ขายปั๊บ หมดปุ๊บ กันเลยทีเดียว
สำหรับคู่ล่าสุดอย่าง ‘UNC’ คู่นี้ ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้านี้ วัสดุที่ใช้จะเป็นหนังแบบคลาสสิก ซึ่งต่างจาก Air Jordan 1 คู่ที่เปิดตัวไปใน NBA All-Star Weekend 2019 และยังใช้ชุดสีที่เป็นธีมของ Tar Heel (ชื่อเล่นของรัฐและทีมนักกีฬาแคโรไลนา) กลายเป็น Air Jordan 1 Retro High OG ‘UNC’ พื้นขาวตัดด้วยคู่สีฟ้าและสีกรมแบบในภาพ